บ้านสไตล์ญี่ปุ่น

บ้านสไตล์ญี่ปุ่น หรือที่หลายคนเรียกว่าการแต่งบ้านสไตล์มูจิ (Muji) เป็นการแต่งบ้านที่นำเอาความมินิมัลมาผสมผสานกับความอบอุ่นได้อย่างลงตัว เน้นพื้นที่ว่างและเฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้นแต่ฟังก์ชั่นครบครัน

นอกจากนี้ บ้านสไตล์ญี่ปุ่น ยังมีการหยิบรูปทรงเรขาคณิตต่างๆ มาประกอบเป็นดีเทลทำให้บ้านแลดูเรียบง่ายและโมเดิร์น ชวนให้ใครหลายคนหลงเสน่ห์ทุกครั้งที่เห็นการแต่งบ้านสไตล์นี้

บ้านสไตล์ญี่ปุ่น

ปัจจัยในการออกแบบบ้านสไตล์ญี่ปุ่น

1. คำนึงถึงรูปทรงของบ้าน

2. ตกแต่งน้อยชิ้น แต่มากฟังก์ชัน

3. เน้นสีเอิร์ธโทน

4. มีตู้เก็บรองเท้า

5.ที่นอนติดพื้นในสไตล์มินิมอล

6. ผสานสไตล์ความเป็นญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม

7. สอดแทรกธรรมชาติ

ไอเดียการแต่งบ้านสไตล์ญี่ปุ่น

1. คุมโทนสีฉบับโฮมมี่

โทนสีที่ควรเลือกใช้แนะนำเป็นสีขาว น้ำตาล เทา ครีม จะออกเป็นเอิร์ธโทนก็ได้แต่ต้องคงความเป็นโฮมมี่ไว้เพื่อสร้างบรรยากาศความเรียบง่ายที่แสนอบอุ่นให้กับตัวบ้าน โดยสำหรับโทนขาว-น้ำตาล จะเหมาะกับการสร้างบรรยากาศให้บ้านดูสะอาดสบายตาและอบอุ่น ส่วนการเสริมสีเทาเข้ามาจะทำให้บ้านมีกลิ่นอายสไตล์ลอฟต์ให้มีความเท่ ความคูล และความโมเดิร์นในแบบที่ต่างออกไป

2. เฟอร์นิเจอร์ไม้

เลือกหยิบเฟอร์นิเจอร์ไม้ทรงเรขาคณิตหรือดีเทลตกแต่งบ้านที่เป็นระแนงไม้มาใช้เป็นองค์ประกอบหลัก ซึ่งการเลือกเฟอร์นิเจอร์เพื่อแต่งบ้านสไตล์ญี่ปุ่นจะเน้นดีไซน์ที่มินิมัล ฟังก์ชั่นครบเพราะเฟอร์นิเจอร์ต้องน้อยชิ้นและยังมีพื้นที่ว่างเหลือภายในตัวบ้านทำให้รู้สึกโปร่ง ไม่อึดอัดแม้จะมีพื้นที่จำกัดก็ตาม และเพื่อให้ง่ายต่อการตกแต่งรวมถึงการแมตช์กับมู้ดโทนของบ้านสไตล์ญี่ปุ่นมากที่สุด ควรเลือกใช้เป็นเฟอร์นิเจอร์ไม้สีอ่อนธรรมชาติ หากต้องการเพิ่มความอบอุ่นให้ตัวบ้านควรเลือกใช้สีไม้ที่มีความเข้มและแดงขึ้นมาอีกหน่อยจะช่วยให้ดูลงตัวมากยิ่งขึ้น

3. ดีเทลเลเยอร์

การสร้างเลเยอร์ให้ส่วนต่างๆ ของบ้าน ทำให้บ้านดูมีดีเทลและมีการแบ่งสัดส่วนที่ชัดเจนมากขึ้นโดยไม่ต้องใช้ผนังหรือประตูกั้น ดังนั้นแม้บ้านจะถูกแบ่งโซนชัดเจนทว่าก็ยังมีพื้นที่โปร่งให้แชร์ร่วมกันได้ สำหรับบ้านที่สำเร็จพร้อมอยู่ รวมถึงบ้านที่ต้องการแค่ตกแต่งเพิ่มเติมไม่ถึงขั้นรีโนเวตใหม่สามารถใช้พรมในการสร้างเลเยอร์และแบ่งสัดส่วนพื้นที่แทนการสร้างความสูงและต่ำของพื้นได้เช่นกัน วิธีนี้ถือเป็นวิธีที่ทำง่ายและช่วยประหยัดงบประมาณอีกด้วย

4. รองรับแสงธรรมชาติ

การทำหน้าต่างหรือประตูให้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาถึงในตัวบ้าน หากมีพื้นที่มากพอสามารถทำเพดานสูงขึ้นไปเพื่อเพิ่มความโปร่งสบายให้ห้องต่างๆ ภายในบ้านมากขึ้น ซึ่งส่วนนี้สามารถดึงดีเทลมู่ลี่และระแนงไม้มาใช้เพื่อกรองแสงไม่ให้ภายในบ้านเกิดความร้อนมากเกินไป แม้การมีพื้นที่สำหรับรองรับแสงธรรมชาติจะมีข้อดีตรงที่เสริมบ้านให้น่าอยู่ แต่ไม่จำเป็นว่าทุกห้องต้องมีหน้าต่างและประตูที่ใหญ่เกินจำเป็น อาจเลือกเฉพาะห้องรับแขก ห้องนั่งเล่น ห้องทำงานและห้องครัวที่ปล่อยให้แสงธรรมชาติลอดผ่านอย่างเต็มที่

5. โต๊ะและเบาะนั่งปลุกความเป็นญี่ปุ่น

การแต่งบ้านสไตล์ญี่ปุ่นให้ดูญี่ปุ่นได้ง่ายที่สุดคือการนำเอกลักษณ์และวัฒนธรรมบางอย่างมาเป็นส่วนหนึ่งของการตกแต่งบ้าน อย่างเช่นโต๊ะไม้และเบาะรองสำหรับนั่งพื้น ดีไซน์ของโต๊ะต้องไม่หวือหวาและยังอยู่ในส่วนของการคุมโทนความเป็นธรรมชาติแนวโฮมมี่ ส่วนขนาดของโต๊ะต้องไม่ใหญ่จนกินพื้นที่อื่นๆ รูปทรงที่แนะนำคือโต๊ะกลม ในส่วนของเบาะควรเลือกเป็นสีเอิร์ธโทนเพื่อให้ไม่โดดจากคอนเซปต์ของบ้านจนเกินไป หากต้องการเพิ่มดีเทลให้โซนสำหรับวางโต๊ะมีความพิเศษมากขึ้น ควรรองด้วยพรมสีพื้นอย่างขาว ครีม หรือน้ำตาล

การเลือกให้ขนาดพอดี

เมื่อถูกบีบด้วยราคาที่ดินที่แพง ขนาดบ้านและห้องก็ย่อมลงมาด้วย และการเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ของคนญี่ปุ่นจึงมักจะเลือกไซส์ที่พอดีกับชีวิต โดยเฉพาะแถว Tokyo เราจะไม่ค่อยเห็นโต้ะทานข้าวใหญ่ในครอบครัวเล็ก เพื่อประหยัดพื้นที่ไว้ใช้ทำกิจกรรมอื่นๆ ได้อีกด้วย ส่วนราคาก็ไม่จำเป็นต้องซื้อของที่แพงเกินไป

ข้อดีของบ้านสไตล์ญี่ปุ่น

– โครงสร้างภายในที่เน้นวัสดุจากไม้ จะช่วยถ่ายเทความร้อน ระบายความร้อนได้ดีกว่าวัสดุชนิดอื่นๆ ทำให้ภายในบ้านเย็นสบาย ไม่อบอ้าว เหมาะกับสภาพอากาศร้อนชื้นแบบประเทศไทย

– ความมีเสน่ห์ของไม้ที่มีลวดลายในตัวเอง ที่สวยงามแตกต่างกันไป การได้สัมผัสผิวเนื้อไม้ จะให้ความอบอุ่นจากความเป็นธรรมชาติ

ข้อเสียของบ้านสไตล์ญี่ปุ่น

เมื่อผ่านการใช้งานมาสักระยะ ไม้อาจมีการหดหรือบิดตัวจากสภาพของแดด ฝนและดินฟ้าอากาศได้ ทำให้เกิดช่องว่างของไม้ หรืออาจมีเสียงลั่นของไม้รบกวนมากกว่าการใช้วัสดุชนิดอื่น ปัญหาเรื่องปลวกและแมลงกัดเซาะ อาจจะมารบกวนได้ การดูแลรักษาจึงต้องใส่ใจเป็นพิเศษ

ที่มา

iurban.in.th

ติดตามเรื่องราวดีๆได้ที่ tanishatours.com